หนึ่ง ในสุดยอดวิชาทางเสน่ห์เมตตามหานิยมที่ขึ้นชื่อชั้นสุดยอด เป็นที่ยอมรับว่าฉมังที่สุดในยุคนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธหากจะบอกว่าเป็นวิชานะหน้าทองตำรับหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว เนื่องจากวิชานี้เป็นวิชามหาเสน่ห์ที่หลวงปู่ได้รับการถ่ายทอดมาจากครูชิด ครูโขนละครที่มีวิชาอาคมในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 วิชาของท่านครูชิดที่ถ่ายทอดมาสู่หลวงปู่กาหลงนี้ถูกปิดบังมานาน แม้จะรู้ก็รู้เฉพาะศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่เท่านั้นหาได้เป็นที่รู้จักของ สาธารณชนทั่วไปไม่ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2549 ทางคณะศิษย์เห็นว่าในปีดังกล่าวนั้น มีฤกษ์มหามงคล คือในวันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงพอดี ซึ่งจะหาวันจันทร์ที่ตรงกับวันเพ็ญเต็มดวงเช่นนี้ได้ยากมากดังนั้นหลวงปู่ กาหลงและคณะศิษย์จึงเห็นควรที่จะจัดพิธีครอบครูพระลักษณ์หน้าทองอันเป็น พิธีกรรมที่มีมาแต่โบราณ ทั้งนี้จะได้ทำการปลุกเสกเครื่องรางชุดพระลักษณ์หน้าทอง อีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นที่แน่นนอนว่าการปลุกเสกในวันมหามงคลและได้กำลังวันซึ่งทรงอิทธิพล อย่างยิ่งทางมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม พระ พักตร์พระลักษณ์หน้าทองนั้นได้ออกแบบเป็นรูปศีรษะโขนขนาดเล็ก โดยคณะผู้จัดสร้างได้ออกแบบจากศีรษะครูพระลักษณ์ ที่ใช้ในการครอบวัตถุมงคลพระพักตร์พระลักษณ์หน้าทองนี้ทำขึ้นมาสองแบบ คือ เนื้อโลหะ และเนื้อผง 1. เนื้อ ชนวนโลหะ สร้างจากแผ่นยันต์พระลักษณ์หน้าทอง ยันต์ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม และโลหะอาถรรพณ์อีกหลายชนิด ด้านหลังประทับด้วยผงวิเศษพระลักษณ์หน้าทอง โรยแต่เขาพนมกุเลน ผงพลอยนพเก้ามหามงคล 2.เนื้อผงอาถรรพณ์ มวลสารพิเศษที่เรียกว่า ( ผงกำเนิดพระลักษณ์เต็มสูตร ) ฝังตะกรุดเงินจารมือด้วยยันต์พระลักษณ์ วัตถุ มงคลพระพักตร์พระลักษณ์หน้าทองดังกล่าวมานี้ นับเป็นเครื่องรางที่มีอิทธิคุณทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างสูงส่ง เพราะชนวนมวลสารทั้งเนื้อโลหะและเนื้อผงต่างเป็นของดีในตัวแล้วทั้งสิ้น ทั้งฤกษ์พิธีปลุกเสกก็ดีอย่างยิ่งหาได้ยากยิ่งหาได้ยากยิ่งนัก ทั้งครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกอธิษฐานจิตก็เป็นผู้ทรงวิทยาคุณ มีพลังจิตสูงส่งอีกด้วยดังนั้น พระพักตร์พระลักษณ์หน้าทองจึงนับเป็นอีกหนึ่งของดีที่หลวงปู่กาหลงตั้งใจ สร้างเพื่อบูชาคุณครู และเพื่อสืบสานตำนานพระลักษณ์หน้าทองชนิดฝากไว้ในแผ่นดิน ขอบอกจุดสำคัญ ของเศียรพระลักษณ์หน้าทองนี้ เพื่อให้หาใส่เสริมบารมี แต่ละท่านครับ สำหรับ พระพักตร์พระลักษณ์หน้าทองเนื้อโลหะนั้น หากท่านสังเกตให้ดีจะพบว่าที่ด้านหน้านั้นจะมีรูเล็กๆ อยู่ช่องหนึ่ง ช่องดังกล่าวนี้มีเอาไว้สำหรับติดพลอยสีประจำวันเกิดของเจ้าของแต่ละคน หากท่านเป็นคนเกิดวันอาทิตย์ก็ให้หาพลอยสีแดงหรือทับทิมมาติดก็จะเป็นสิริ มงคลต่อตัวท่านเป็นอย่างยิ่ง เป็นการเสริมบารมีองค์พระลักษณ์ และยังเป็นการเสริมบารมีของตัวท่านเองอีกด้วย ในทำนองเดียวกันหากท่านเป็นคนเกิดวันจันทร์พึงใช้มุก คนเกิดวันอังคารใช้โรสควอสต์ กัลปังหาแดง หรือหินสีชมพูมาติด คนเกิดวันพุธใช้หยก มรกต หรือหินสีเขียว คนเกิดวันพฤหัส ใช้อำพัน หินสีส้มแดง เหลืองแก่ คนเกิดวันศุกร์ใช้เทอร์ควอยส์ อะความารีน หรือ พลอยสีฟ้าอื่นก็ได้ คนเกิดวันเสาร์ใช้นิล คนเกิดวันพุธกลางคือใช้นิลเช่นเดียวกับวันเสาร์ ให้หาหินสีตามประวันเกิดมาประดับองค์พระลักษณ์เป็นการเสริมเสน่ห์เสริมพลัง บารมีเพื่อสิริมงคลประตัวของบุคคลผู้นั้น อำนาจจากหินสีหรือพลอยตามธรรมชาติจะเป็นแรงส่งพลังมงคลจากดวงดาว พลังจากจักรวาลให้ผู้ที่พกพระลักษณ์เกิดเมตตามหานิยมแรงส่งพลังมงคลจากดวง ดาว พลังจากจักรวาลให้ผู้ที่พกพระลักษณ์เกิดเมตตามหานิยมสง่าราศี สิริมงคล และความเจริญรุ่งเรืองแก่ตัวท่านยิ่งๆ ขึ้นไป และพระลักษณ์หน้าทองที่ท่านนำพลอยประวันเกิดมาติดนี้ก็จะเป็นวัตถุมงคลคู่ กายท่านตลอดไป ซึ่งนับเป็นเคล็ดลับที่ไม่มีใครรู้อย่างแน่นอน แต่เราก็นำมาเปิดเผยไว้ ณ ที่นี้แล้ว เศียร พระลักษณ์หน้าทองนี้ผู้เขียนได้ยินกับปากของหลวงปู่กาหลงเองว่า ( แหม ! แรงมาก ๆ ) แรงในที่นี้คือ เป็นเสน่ห์ดี เมตตามหานิยมดี และยังคุ้มครองได้ด้วย เพราะอำนาจของเมตตานั้นเป็นอำนาจที่รักษาคุ้มครองให้พ้นภัยไปในตัวอยู่แล้ว โชคลาภก็มีมาไม่ขาดทั้งนี้ให้หมั่นทองพระคาถาเป็นประจำทุกๆ วัน เช้าเย็นอย่าได้ขาด อาราธนาพระลักษณ์ติดกายเป็นประจำ ก่อนออกจากบ้านไปไหนไปพบใครก็เอาเศียรพระลักษณ์หน้าทองนี้วนที่ใบหน้าระลึก ว่าดุจเราได้ครอบเศียรพระลักษณ์ มีพระพักตร์ของพระลักษณ์อยู่บนใบหน้าเรา ให้ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไว้ และมีเคล็ดประการหนึ่งคือ ขณะที่ทองให้ระลึกถึงใบหน้าเรา ให้ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไว้ และมีเคล็ดประการหนึ่งคือ ขณะที่ท่องให้ระลึกถึงใบหน้าของผู้ที่เราจะไปหา จะเป็นเสน่ห์แก่บุคคลผู้นั้น เมื่อพลเราเขาจะยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนญาติมิตรลูกหลานเลยทีเดียว